top of page
Isuzu Hock An Tueng อีซูซุฮกอันตึ๊ง

พบ 92 รายการสำหรับ ""

  • Hi-Lander 2 Door 1.9 Ddi L DA ของคุณพิกุล แก้วใจ เจ้าของสวนผลไม้ ใช้เล่มเขียวเล่มเดียวออกรถได้สบาย ๆ

    อาชีพเกษตรกร ฟังทางนี้ อยากออกรถแต่กลัวต้องใช้คนค้ำ เพียงแค่ใช้เล่มเขียวเล่มเดียวไม่ต้องง้อคนค้ำเลย คุณพิกุล แก้วใจ อายุ 56 ปี (เจ้าของสวนทุเรียน ลองกอง) อ.ลับแล ต.นานกกก จ.อุตรดิตถ์ ความกังวลกลัวไม่มีคนค้ำอายุที่ค่อนข้างเยอะของลูกค้าก่อนซื้อรถ แต่ลูกค้ามีเล่มเขียวก็เลยหายห่วง ลูกค้ารายนี้ ออกรถ Hi-Lander 2 Door 1.9 Ddi L DA ออกรถใช้เงินดาวน์เพียง 50,000 บาท พร้อมเลือกส่งค่างวดล่วงหน้า 6 เดือน ที่เลือกส่งล่วงหน้าเพราะได้เงินเป็นรอบฤดูกาลการเก็บเกี่ยวผลผลิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร: 099-490-5000 ไลน์ไอดี: @isuzuhat หรือ สามารถพิมพ์ @isuzuhat ค้นหาเราได้ทุกช่องทาง ISUZU HAT GROUP เราให้คุณมากกว่าคำว่าบริการ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถาบันการเงินกำหนด

  • ISUZU V-CROSS 4X4 ของน้องนิค หนุ่มอุตรดิตถ์ จบปวช. ผันตัวมาเป็นเจ้าของสวนรายได้ 6 หลักต่อปี

    เปิดใจ!! หนุ่มอุตรดิตถ์ จบปวช. ผันตัวมาเป็นเจ้าของสวน จับเงินรายได้หลักแสนต่อปี ซื้อรถเป็นของตัวเองในอายุเพียง 22 ปี คุณ กฤษณา เทธิกัน (น้องนิค) "เรียนจบ ปวช.ตัดสินใจออกมาทำสวนต่อจากครอบครัว โดยปลูกทุเรียนและลองกอง รายได้ที่ทำได้จะอยู่หลักแสนต่อปี ตัดสินใจออกรถเพราะรถที่บ้านไม่เพียงพอต่อการขนส่ง และอยากไปบ้านแฟนที่น่านซึ่งเป็นเส้นทางเขาเลยตัดสินใจออกรถ เป็น v-cross 4x4 " ใช้โปรอะไรในการออกรถ? "ดาวน์ 15% ไฟแนนซ์ผ่านง่าย 2 วัน ผ่าน แต่เลือกส่งค่างวดล่วงหน้า 6 เดือน เพราะอาชีพเกษตรกร จะได้เงินเป็นก้อนและเป็นรอบในการเก็บเกี่ยวผลผลิต" สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร: 099 490 5000 ไลน์ไอดี: @isuzuhat หรือ สามารถพิมพ์ @isuzuhat ค้นหาเราได้ทุกช่องทาง ISUZU HAT GROUP เราให้คุณมากกว่าคำว่าบริการ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถาบันการเงินกำหนด

  • โปร 11.11 จองรถอีซูซุทุกรุ่นวันนี้ ลุ้นรับโชค 2 ชั้น

    ไม่จองวันนี้ จะไปจองวันไหนละค้าบ โปร 11.11 จองรถอีซูซุทุกรุ่นวันนี้ ลุ้นรับโชค 2 ชั้น โชคชั้นที่ 1 รับบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 2,000 บาท โชคชั้นที่ 2 ลุ้นรับกระเป๋าเดินทาง จำนวน 3 รางวัล สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 66 - 11 พฤศจิกายน 66 เท่านั้น อาชีพไหนก็ออกรถกับเราได้ เครดิตดีไม่ต้องมีคนค้ำ Inbox m.me/isuzupl / โทร. 055-244674-6 เงื่อนไขเป็นไปตามที่สถาบันการเงิน และบริษัทฯ กำหนด

  • เริ่มเข้าหน้าหนาวทำไมสตาร์ทรถติดยาก แล้วจัดการอย่างไรดี?

    ช่วงฤดูฝนทั้งฝนตกและน้ำท่วมที่พาอาการอันแสนปวดหัวมากับน้ำ ได้กำลังค่อย ๆ ผ่านพ้นไป ช่วงนี้ในบางพื้นที่ก็เริ่มมีอุณหภูมิต่ำลงเป็นสัญญาณของฤดูหนาว(แม้ว่าจะสั้นกว่าปีก่อน ๆ ก็ตาม) พาทำให้เครื่องยนต์ของรถยนต์เราเย็นลงตามไปด้วย กว่าจะสตาร์ทติดได้ก็ชวนหงุดหงิดไม่น้อย บางทีไม่ติดเลย ในตอนนี้เราจึงต้องมาตรวจเช็คและเตรียมพร้อมไปในตัว ว่ามีปัจจัยไหนบ้างที่ส่งผลให้มีอาการเหล่านี้และจะแก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง อากาศเย็นส่งผลอะไรกับรถยนต์เราบ้าง? ระบบของเหลวในเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องมีหนืดขึ้น ในวันที่สภาพอากาศที่เย็นสบาย ในวันที่ฝนตกอากาศเย็นและชื้นในที่เย็นจัด อาจทำให้ น้ำมันเครื่องสามารถมีเนื้อที่หนืดและแข็งตัวได้ ทำให้ไหลเวียนได้ไม่ดีเท่าที่ควรและอาจส่งผลทำให้เครื่องยนต์ขัดข้องหรือสตาร์ทติดยาก แรงดันน้ำมันเครื่องต่ำ เครื่องยนต์ของคุณต้องอาศัยแรงดันน้ำมันเครื่องเพื่อทำให้น้ำมันเครื่องทำงานไหลเวียนได้อย่างราบรื่นซึ่งอากาศที่เย็นจัดนั้นสามารถทำให้ทำงานผิดปกติได้ การแก้ไขปัญหาคือเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ เพราะน้ำมันเครื่องสังเคราะห์นั้นจะรักษาระดับความหนืดและสามารถต้านทานการแข็งตัวได้ดีกว่า แม้ในวันที่มีสภาพอากาศเย็นจัด เมื่อสตาร์ทรถยนต์ติดแล้วควรให้เวลาวอร์มเครื่องยนต์อย่างน้อย 15-20 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องที่มีความเหนียวหนืดเนื่องจากอากาศเย็นได้คลายตัวลงก่อนทำการขับขี่ ระบบไฟฟ้า แบตเตอรี่คายประจุเร็ว ในอุณหภูมิปกติ แบตเตอรี่รถยนต์จะมีการคายประจุออกไปอย่างช้า ๆ เนื่องมาจากการรั่วไหลระหว่างขั้วต่อ ปฏิกิริยาเคมีในที่อากาศเย็นจะคายประจุได้เร็วกว่า ทำให้ความจุของแบตเตอรี่ลดน้อยลง จึงทำให้รถของเราสตาร์ทติดยากขึ้น หรือ อาจจะสตาร์ทไม่ติดเลย เมื่อสตาร์ทรถยนต์ติดแล้วให้เวลาวอร์มเครื่องยนต์อย่างน้อย 15-20 นาที เพื่อวอร์มแบตเตอรี่ การสตาร์ทรถยนต์สถานการณ์แบบนี้ทำอย่างไร? หากเป็นรถยนต์ที่มีโช๊คแบบใช้มืออยู่ ดึงโช๊คขึ้นและกดปุ่มสตาร์ทรถ หรือบิดกุญแจสตาร์ทรถ หลังจากนั้นเหยียบคันเร่งจนกว่ารถจะสตาร์ทติด ส่วนรถยนต์ที่มีโช๊คแบบอัตโนมัติ ให้กดปุ่มหรือบิดกุญแจสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งเพื่อสตาร์ทรถให้ติดได้เลย สาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติดได้ การสตาร์ทรถยนต์ไม่ติดนั้นยังสามารถเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ได้เช่นกัน ให้ลองตรวจสอบอาการเบื้องต้น หากไม่แน่ใจให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโดยละเอียดและแก้ไข หัวเทียนสึกกร่อน เนื่องจากการใช้งานรถยนต์มาอย่างยาวนาน ซึ่งหัวเทียนควรจะเปลี่ยนทุก ๆ 20,000 – 30,000 กิโลเมตร และควรตรวจสภาพหัวเทียนบ่อย ๆ ขั้วแบตเตอรี่หลวมและระดับน้ำยาแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ แบตเตอรี่ถือเป็นหัวใจหลักอย่างหนึ่งของรถยนต์ที่ทำให้รถใช้งานได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบสภาพขั้วให้แน่นหนาและระดับน้ำยาแบตเตอรี่ให้มีเพียงพออยู่เสมอ ไดชาร์จเสีย ไดชาร์จเป็นตัวปั่นไฟให้เข้าไปเก็บในแบตเตอรี่และจ่ายกระแสไฟไปส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ ซึ่งหากไดชาร์จเสียก็จะทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติด ไดสตาร์ทหรือมอเตอร์สตาร์ทรถเสีย ไดสตาร์ทมีหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล ทำให้เครื่องยนต์รถติด หากมีอาการเสียก็จะทำให้รถสตาร์ทไม่ติด เมื่อพบปัญหาแล้วให้นำส่งซ่อม สายไฟขาดหรือระบบไฟฟ้ามีปัญหา เพราะการสตาร์ทรถนั้น ต้องใช้ไฟฟ้าจากเครื่องยนต์ภายในรถ หากมีหนูมากัดสายไฟขาดหรือระบบไฟฟ้ามีปัญหาที่จุดใดจุดหนึ่ง ก็จะทำให้รถสตาร์ทไม่ติด มีไฟรั่วในรถ ตรวจสอบได้ด้วยการนำรถเข้าไปตรวจสอบที่อู่หรือศูนย์บริการ ถ้ามีไฟรั่ว ต้องหาจุดที่รั่วให้เจอแล้วทำการแก้ไข น้ำมันในถังหมด ให้เช็กดูน้ำมันคงเหลือในถัง ถ้ามีไฟเตือนรูปเติมน้ำมัน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า น้ำมันในถังหมดแล้ว ทำให้สตาร์ทอย่างไรก็ไม่ติด หรืออาจเจออาการลูกลอยค้าง ทำให้เห็นว่ายังมีน้ำมันอยู่ แต่ความจริงน้ำมันมันหมดไปแล้ว ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ฃ ปั๊มติ๊กอาจเสีย เนื่องจากปั๊มติ๊กจะทำหน้าที่ในการส่งน้ำมันจากถังไปทีหัวฉีด ถ้าปั๊มติ๊กไม่ทำงาน ก็จะไม่มีน้ำมันเข้าไปจุดระเบิด สตาร์ทอย่างไรก็ไม่ติด อ้างอิงข้อมูล ทำไมอากาศเย็นแล้วรถสตาร์ทติดยาก หน้าหนาวนี้เครื่องยนต์ สตาร์ทยากทำยังไง รถสตาร์ทติดยากเพราะอากาศเย็น ปัญหาหนักใจคนใช้รถ ทำไมอากาศเย็น รถสตาร์ทติดยาก ?

  • อีซูซุสัญจร พฤศจิกายน นี้พาไปท้าลมหนาว พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ

    อีซูซุสัญจร พฤศจิกายน นี้พาไปท้าลมหนาว พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ให้ถึงที่ ตลาดนัดปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก วันเสาร์ ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ตลาดสถานีรถไฟบางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก วัน จันทร์ ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 เตรียมพบกับ โปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับคุณ ของรางวัลสำหรับลูกค้าร่วมลงทะเบียน จองรถภายในงานรับของรางวัล อาชีพไหนก็ออกรถได้ ดาวน์น้อย ผ่อนสบาย ที่ปรึกษามืออาชีพ สู้ให้ทุกคัน ดันให้ทุกเคส แล้วพบกันนะคะ

  • ISUZU D-Max Hi-Lander 4 ประตู เกรด Z ของเจ้เรียน ร้านข้าวแกงจับเงิน"หลักหมื่น" ออกรถได้ ธรรมดาที่ไหน

    ร้านอาหารขวัญใจชาวบ้าน จ.อุตรดิตถ์ "เจ้เรียน ก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวราดแกง ข้าวขาหมู อาหารตามสั่ง" ร้านเปิดมา 8-9 ปี ร้านเก่าแก่เลย ร้านจะอยู่ติดถนนริมทาง ถนนอุตรดิตถ์ เวลาเปิด 06.00 น. - 15.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) ราคาข้าวราดแกง 1 อย่าง 30 บาท / 2 อย่าง 35 บาท / ใส่ถุง 25 บาท อาหารตามสั่ง ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ราคาเริ่มต้น 40 บาท เมนูที่มัดใจลูกค้า คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือร้อน ๆ น้ำซุปหอม ๆ ลูกค้าเลือกออกรถรุ่น Hi-Lander 4 Drs. 1.9 Ddi เกรด Z เลือกออกรถกับอีซูซุเพราะอยากออกให้ลูกชาย และชอบในตัวรถ ใช้เงินวันออกรถเพียง 96,000 บาท ผ่อน 1x,xxx บาท/84 เดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร : 099 490 5000 ไลน์ไอดี : @isuzuhat หรือ สามารถพิมพ์ @isuzuhat ค้นหาเราได้ทุกช่องทาง ISUZU HAT GROUP เราให้คุณมากกว่าคำว่าบริการ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถาบันการเงินกำหนด

  • ฤกษ์ออกรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2566

    เพื่อเพิ่มความปัง.. ต้องอาศัยการมูแล้วแหละ ฤกษ์ออกรถประจำเดือน พฤศจิกายน 2566 by หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา ออกรถแล้วดี เป็นศรีแก่ตัวผู้ขับขี่ พฤศจิกายน นี้ วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2566 วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566 วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน 2566 วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2566 วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2566 วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ออกรถตามวันเกิด คนเกิดวันไหนออกรถวันไหนดี? คนเกิดวันจันทร์ ควรออกรถวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ไม่ควรออกรถวันอาทิตย์ คนเกิดวันอังคาร ควรออกรถวันศุกร์ ไม่ควรออกรถวันจันทร์ คนเกิดวันพุธกลางวัน ควรออกรถวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ไม่ควรออกรถวันอังคาร คนเกิดวันพุธกลางคืน ควรออกรถวันจันทร์ วันศุกร์ ไม่ควรออกรถวันพฤหัสบดี คนเกิดวันพฤหัสบดี ควรออกรถวันพุธ วันศุกร์ ไม่ควรออกรถวันเสาร์ คนเกิดวันศุกร์ ควรออกรถวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ไม่ควรออกรถวันพุธกลางคืน คนเกิดวันเสาร์ ควรออกรถวันจันทร์ ไม่ควรออกรถวันพุธกลางวัน Isuzu Hat Group เราให้คุณมากกว่าคำว่าบริการ ------------------------------------

  • ISUZU D-MAX Hi-Lander 4 ประตู ของ "อามีนา ซาลอน" ร้านเสริมสวยในอำเภอเล็ก ๆ ที่รายได้ไม่เล็ก

    ร้านเสริมสวยสุดแซ่บ สวรรค์ของคนอยากจะสวย ครบจบในที่เดียว • ตัด สระ ไดร์ ดัด ยืด ทำหมดไม่สนหัวใคร • ทำสีผม เรื่องนี้เด่นสุด ๆ ของร้านนี้ • ต่อขนตาแบบช่างมืออาชีพ มีใบ Certificate รับรองความชำนาญ • ทาเล็บเจล-ต่อเล็บ ด้วยช่างมีประสบการณ์ • สปาเท้า • นวดหน้า-ขัดหน้า "อามีนา ซาลอน" ร้านเสริมสวย ที่ทำรายได้สูงสุด 1x,xxx บาท/วัน แม้จะอยู่ในอำเภอเล็ก ๆ แต่รายได้ไม่เล็กเลย พิกัด ตั้งอยู่ข้างวัดวังทองวราราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สามารถเข้าไปดูผลงานเพิ่มเติมได้ที่เพจ ร้านทำผม อามีนา ซาลอน ลูกค้าใช้รถ Hi-lander 4 ประตู เกรด Z เน้นเอาไว้ใช้ขับเดินทางซึ่งเป็นเส้นทางเขา และพาครอบครัวไปเที่ยวในวันหยุด จ่ายจบวันรับรถไม่ถึง 40,000 บาท งวดผ่อนสบาย ๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร: 099 490 5000 ไลน์ไอดี: @isuzuhat เว็บไซด์: www.isuzuhatgroup.com หรือ สามารถพิมพ์ @isuzuhat ค้นหาเราได้ทุกช่องทาง ISUZU HAT GROUP เราให้คุณมากกว่าคำว่าบริการ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถาบันการเงินกำหนด

  • ดอกยางรถยนต์เลือกยังไง ? ให้เหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ของเรา

    และแล้ววันหยุดยาวแห่งการเดินทางมาถึงอีกครั้ง เป็นช่วงที่ต้องเดินทางต้องเดินทางขับขี่กันอย่างยาวนานและค่อนข้างไกล ก็เตรียมตรวจสภาพรถยนต์มาแล้วพร้อมออกเดินทาง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราอยากแนะนำเพื่อปรับการขับขี่ให้เหมาะสมและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นคือเรื่องของยางรถยนต์นั่นเองค่ะ หลาย ๆ คนที่พึ่งขับรถยนต์ครั้งแรกหรือพึ่งออกรถยนต์คันแรกอาจจะรู้สึกว่ายางรถยนต์นั้นมีความหลากหลายมาก ๆ แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันต่างกันขนาดนั้น ซึ่งจริง ๆ แล้ว นอกจากขนาดยางรถยนต์ การดูแลรักษายางรถยนต์ ดอกยางรถยนต์เองก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อการขับขี่ ให้ประสิทธิภาพของการเคลื่อนที่แตกต่างกันไปตามสภาพพื้นที่และลักษณะของดอกยางรถยนต์ที่ใช้ ลองมาดูกันว่าลักษณะดอกยางแบบไหนเหมาะกับการขับขี่และปลอดภัยที่สุด ความแตกต่างของทิศทางดอกยาง ดอกยางทิศทางเดียว (Directional) ดอกยางจะมีลักษณะไปในทิศทางเดียวกัน โดยที่แก้มยางจะมีสัญลักษณ์ลูกศรแสดงไว้ สำหรับแสดงทิศทางการหมุนเพื่อให้สามารถใส่ยางได้อย่างถูกต้อง ไม่สามารถใส่สลับซ้ายขวาของรถยนต์เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ (หลายคนที่นิยมเก็บยางเก่าไว้เป็นยางอะไหล่ต้องคำนึงถึงประเด็นนี้ด้วย) ดอกยางในลักษณะนี้จะมีจุดเด่นคือสามารถรีดน้ำได้ดีกว่าดอกยางแบบสองทิศทาง ดอกยาง 2 ทิศทาง (Non Directional) เป็นลักษณะของลายดอกยางที่จะสามารถสลับยางได้ในทุกตำแหน่งล้อของรถยนต์ โดยลักษณะดอกยางแบบนี้ทั้ง 2 ด้าน จะสวนทิศทางกัน เป็นยางที่เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปไม่เน้นความเร็วสูง วิธีการใส่ยาง แบบ “ดอกยางแบบ 2 ทิศทาง”สามารถใส่ได้ทุกทิศทาง และเวลาสลับยางก็สามารถสลับได้ทุกตำแหน่ง มีคุณสมบัติในการรีดน้ำน้อยกว่า เหมาะกับการเดินทางที่ไม่ใช้ความเร็วสูง ขับขี่ในเมือง หากต้องเดินทางในพื้นที่ชื้นแฉะหรือฤดูฝนต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น ดอกยางแบบสมมาตร (Symmetric) เป็นลักษณะของดอกยางที่มักพบเห็นในยางส่วนใหญ่ทั่วไป คือมีลักษณะดอกยางและร่องยางที่ต่อเนื่องทั่วพื้นที่หน้ายาง โดยหากแบ่งพื้นที่บนหน้ายางเป็นสองส่วนลวดลายในแต่ละส่วนจะเหมือนกันทุกประการ ดอกยางแบบไม่สมมาตร (Asymmetric) จะมีลายที่แตกต่างกันบนหน้ายาง ลายดอกยางทั้งสองฝั่งจะหนาไม่เท่ากัน ซึ่งลายดอกยางด้านในนั้นจะออกแบบมาเน้นการขับขี่ที่ความเร็วสูง ส่วนดอกยางด้านนอกนั้นเน้นการขับขี่ในการเข้าโค้ง ทางคดเคี้ยวมากๆที่ความเร็วสูง ลักษณะดอกยางที่ใช้งานทั่วไป ดอกยางละเอียด (Rib Pattern) ลักษณะของดอกยางประเภทนี้คือเป็นแนวยาวบนหน้ายางตามวงรอบของยาง ซึ่งจากลักษณะของดอกยางทำให้มีการสูญเสียหน้าสัมผัสจากร่องยางกับพื้นถนนไม่มาก รวมทั้งยังสามารถรีดน้ำได้รวดเร็ว และมีเสียงรบกวนน้อย เหมาะกับรถที่ขับบนทางเรียบ ดอกยางบั้ง (Lug Pattern) มีลักษณะบั้งเป็นแนวขวางบนหน้ายางหรือขวางเส้นรอบวงของยาง การที่ดอกยางถูกออกแบบในลักษณะนี้ก็เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการตะกุย เหมาะสำหรับการใช้งานในถนนที่ขรุขระ แต่ก็สามารถใช้งานบนถนนทั่วไปที่ความเร็วต่ำได้ นอกจากนี้ดอกยางแบบบั้งยังมักมีร่องยางที่ลึกเพื่อให้มีอายุการใช้งานที่นาน ดอกยางแบบผสม (Rib Lug Pattern) ดอกยางที่ผสานลักษณะของดอกยางแบบละเอียดและแบบบั้งไว้ด้วยกัน เพื่อให้มีจุดเด่นของดอกยางทั้งสองชนิด โดยทั่วไปแล้วดอกยางแบบผสม มักจะมีดอกยางแบบละเอียดอยู่บริเวณพื้นที่ตรงกลางของหน้ายาง โดยมีดอกยางแบบบั้งขนาบที่ขอบหน้ายางทั้ง สองด้าน ด้วยการผสานทั้งดอกยางแบบละเอียดและแบบบั้งไว้ด้วยกัน จึงทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานทั้งบนทางเรียบและทางขรุขระสลับกัน แต่ไม่ควรใช้ขับขี่บนพื้นผิวถนนที่เป็นดินโคลน โดยเฉพาะในฤดูฝนหรือสภาวะอากาศที่มีฝนตกบ่อย เพราะดอกยางแบบนี้จะขาดคุณสมบัติในการสลัดดินออก ทำให้เสี่ยงต่อการลื่นไถลหรือติดหล่มโคลนง่าย ดอกยางบล็อค (Block Pattern) ดอกยางแบบบล็อกจะมีลักษณะของดอกยางเป็นก้อนหรือจุดซึ่งมีทั้งที่เป็นบล็อกเหลี่ยมหรือกลม ดอกยางในลักษณะนี้จะมีประสิทธิภาพในการตะกุยสูง จึงทำให้เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานแบบลุยหนักหรือใช้บนเส้นทางที่มีความโหดอย่างรถออฟโรด หากนำรถยนต์ที่มีดอกยางใหญ่นี้มาขับขี่บนถนนทางหลวงทั่วไป จะทำให้การยึดเกาะน้อย ทั้งยังสร้างเสียงดังรบกวนการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อวิ่งรถด้วยความเร็วสูง ลักษณะดอกยางที่ไม่แนะนำให้มาใช้งานปกติ ดอกยางเนื้ออ่อน (Soft Compound) ยางที่เรียกกันว่า กึ่งสลิค คือมีหน้าตาเหมือนกับยางรถยนต์ปกติ แต่มีความนุ่มของเนื้อยางหรือวัสดุที่ใช้มากกว่าธรรมดามีดอกยางลวดลายแปลก ๆ แต่ไม่ซับซ้อน อาทิ ลายหนอน ลายหัวธนู เป็นต้น เพื่อให้มีประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนเพิ่มมากขึ้น แต่ประสิทธิภาพในการรีดน้ำก็จะสู้ยางทั่วไปไม่ได้ อาจทำให้รถเสียหลักบนถนนเปียกได้ง่ายกว่าปกติ ไม่มีดอกยาง (Slick) เป็นยางที่พัฒนาขึ้นสำหรับใช้งานบนสนามแข่งโดยเฉพาะ ซึ่งยางประเภทนี้จะมีหน้ายางที่เรียบสนิท ไร้ร่องดอกยางสำหรับรีดน้ำ เพื่อให้หน้ายางสามารถสัมผัสกับพื้นสนามได้อย่างเต็มที่ ด้วยยางสลิคถูกออกแบบให้ปราศจากดอกยาง การนำมาใช้บนนถนนจึงถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง เพราะหากเจอฝนหรือแอ่งน้ำแค่เพียงนิดเดียว ก็จะทำให้รถเสียการยึดเกาะถนนจนเป็นอันตรายได้ อ้างอิงข้อมูล ใส่ยางอย่างไรให้ถูกต้อง ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เปลี่ยนยางใหม่…จะเลือกดอกยางรถยนต์อย่างไรดี ดอกยางรถยนต์ แบบไหนเหมาะสำหรับขับลุยฝนตก ลายดอกยางรถยนต์มีกี่แบบ มีลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร ดอกยางมีกี่แบบ อะไรบ้าง ยาง เลือกดอกยาง ตามสไตล์การขับรถ “ยาง Slick” คืออะไร? ทำไมจึงห้ามนำมาใช้บนถนนโดยเด็ดขาด ยาง SLICK คืออะไร ใช้งานอย่างไรกันแน่ มาหาคำตอบกัน

  • ร่วมทดลองขับ NEW! ISUZU D-MAX 2024 พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ และกิจกรรมมากมาย ฟรี! ตลอดงาน

    12 ตุลาคม 2566 นี้ ร่วมสร้างประสบการณ์ ของการทดลองขับ NEW! ISUZU D-MAX 2024 พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ และกิจกรรมมากมาย ฟรี! ตลอดงาน สัมผัสโฉมจริงได้ที่ อีซูซุพิษณุโลกฮกอันตึ๊ง จำกัด (สาขาบ้านคลอง) โทรศัพท์: 055 244 674

  • แจ้งปิดทำการในวันที่ 13 ตุลาคม 2566

    เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 โดยจะเปิดทำการปกติในวันเสาร์ ที่ 14 ตุลาคม 2565 ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ Isuzu Hat Group เราให้คุณมากกว่าคำว่าบริการ

  • ถ้ายางรถเรามีลักษณะผิดปกติเหล่านี้ แล้วจะใช้ต่อไปดีไหมนะ ?

    ยางรถยนต์ถือเป็นอะไหล่เพียงอย่างเดียวที่ทำหน้าที่สัมผัสกับพื้นผิวของถนน มีความสามารถในการยึดเกาะพื้นผิวแตกต่างกันไปตามชนิดของหน้ายาง ทั้งนี้แม้ว่ายางรถยนต์จะถูกออกแบบให้มีความทนทาน แต่ยางรถยนต์ทุกเส้นมีการสึกหรอ อายุการใช้งาน แตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการขับขี่ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ายางรถยนต์ของเราถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนได้แล้ว ลองสำรวจยางรถยนต์ของเราดูว่าสภาพยางตรงกับลักษณะเหล่านี้หรือไม่ ดอกยางสึกหรอ ดอกร่องยางตื้น ความลึกของร่องดอกยางคือ ค่าที่วัดได้จากจุดต่ำสุดของร่องดอกยางไปจนถึงผิวหน้ายาง โดยปกติยางรถยนต์ที่ผลิตในปัจจุบันจะมีตัวบอกสภาพดอกยาง(หรือเรียกอีกอย่างว่าสะพานยาง) มีลักษณะเป็นสันนูนคล้ายสะพานที่เชื่อมร่องดอกยางให้ติดกัน เมื่อดอกยางสึกหรอถึงระดับตัวบอกสภาพในร่องดอกยางแล้ว อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ หรืออีกวิธีหนึ่งในการสังเกตคือใช้ไม้ขีดไฟทิ่มลงไปในร่องยาง ถ้าเห็นหัวไม้ขีดหมายถึงดอกยางเหลือน้อยเกินไปที่จะใช้งานได้ต่อไป เพราะหากดอกยางตื้นจนเกินไปจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการรีดน้ำของดอกยาง รวมไปถึงการยึดเกาะถนนที่ลดลงไปตามความลึกของดอกยางที่สูยเสียไปจากการใช้งาน ควรตรวจเช็กตามระยะทางและสลับยาง ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการสึกหรอนอกจาการใช้งานแล้ว การเติมลมยางไม่เหมาะสม และการตั้งศูนย์ล้อที่ไม่ปกติ ก็ส่งผลโดยตรงต่อหน้ายางด้วยเช่นกันโดยมีจุดสังเกตดังนี้ ขอบด้านนอกหรือขอบด้านในสึกมากกว่า – เกิดจากการตั้งศูนย์ล้อ มุมบังคับเลี้ยว (มุม Toe) ไม่สมดุล หน้ายางด้านในหรือด้านนอกสึกมากกว่า – เกิดจากการตั้งศูนย์ล้อแนวตั้ง (มุม Camber) ไม่ถูกต้อง ส่วนกลางของหน้ายางสึกหรอเป็นพิเศษ – เกิดได้จากแรงดันลมยางที่มากเกินไป ส่วนขอบของหน้ายางทั้งด้านในและด้านนอกสึกหรอเป็นพิเศษ – บริเวณขอบทั้งสองด้านสึกมากเป็นพิเศษ เกิดจากแรงดันลมยางน้อยเกินไป ข้อสังเกตระดับความลึกของดอกยางให้พิจารณาในการใช้งาน 6-8 มม. หรือมากกว่า 8 มม. นั้น เป็นความลึกของร่องยางที่เหมาะสม 4-5 มม. เป็นลักษณะที่ดอกยางหมดไปแล้วประมาณ 50% ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่แนะนำให้คอยหมั่นตรวจเช็ค 3 มม. เป็นความลึกของดอกยางที่สมควรเปลี่ยน และจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่บนถนนที่เปียก 1.6 มม. สภาพความลึกที่เหลือเพียงเท่านี้คือดอกยางหมดเกือบ 100% ไม่ควรใช้งานต่ออาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ผิวยางบวมบูด รอยนูนบนยางรถบ่งบอกถึงโครงสร้างภายในยางรถยนต์ได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจเกิดจากการกระทบกับขอบถนน ตกหลุมบ่อหรือชนกับเกาะกลางถนนด้วยความเร็วสูงหรือขับผิดมุม ผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวทำให้โครงยางรับแรงกระแทกมากเกินไป ซึ่งส่งผลให้ลวดใยเหล็กเส้นฉีกขาด การบวมของยางส่วนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณแก้มยาง แนะนำว่าควรเปลี่ยนยางทันทีเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดระเบิดได้หากขับขี่ต่อไปอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื้อยางแข็งมีรอยแตก หรือแตกลายงา อายุใช้งานสูงสุดของยางไม่ควรเกิน 4 – 5 ปี ดูอายุของยางรถยนต์สามารถดูได้ที่ตัวเลขสี่หลักที่ประทับบนแก้มยาง โดยเลขสองตัวแรกบ่งบอกสัปดาห์ที่ผลิต ขณะที่ตัวเลขสองตัวหลังบอกปีทีผลิต วิธีการตรวจเช็คโดยง่ายก็คือ ใช้เล็บมือลองจิกลงบนหน้ายาง ถ้าหากว่าจิกลงไปแล้ว ไม่ทิ้งรอยเล็บ แสดงว่าหน้ายางหมดอายุแล้ว หรือสังเกตอาการแตกลายงาของผิวยาง เมื่อหน้ายางหมดอายุ หน้ายางจะเริ่มแข็ง ประสิทธิภาพของยางจะขาดความนิ่มและความยืดหยุด เบรกเริ่มมีเสียงดัง และระยะเบรกไม่ดี ควรเปลี่ยนทันทีโดยไม่ต้องคำนึงถึงการสึกของดอกยางแต่อย่างใด ตำแหน่งรั่วของยาง เมื่อยางเกิดรั่ว หลายคนนิยมใช้วิธีปะยางแทนการเปลี่ยนยางทั้งเส้น แต่ควรตระหนักว่าการปะยางควรทำในบริเวณที่รอยรั่วมีขนาดไม่เกิน 1 ใน 4 นิ้วและเกิดขึ้นบริเวณหน้ายางเท่านั้น และหากเกิดการรั่วหรือฉีกขาดบริเวณแก้มยางควรเปลี่ยนยางเส้นนั้นแทนการใช้งานต่อที่อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งหากมีอาการเปล่านี้แล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ หลาย ๆ คนมีความสงสัยคือ ควรเปลี่ยนยางเฉพาะเส้นที่เสื่อมสภาพ หรือควรเปลี่ยนยางรถ 2 หรือทั้ง 4 เส้นในครั้งเดียว คำตอบคือ ควรเปลี่ยนพร้อมกันยกชุด เพราะการเปลี่ยนยางทีละเส้นจะทำให้คุณภาพยางไม่สมดุลส่งผลกระทบต่อการขับขี่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานของยางเส้นอื่น ๆ ที่เหลือว่าเหมาะสมที่จะเปลี่ยนทั้งหมด หรือการพิจารณาของศูนย์บริการ อ้างอิงข้อมูล ใช้รถต้องระวัง! หากพบว่ายางรถยนต์เป็นแบบนี้ต้องเปลี่ยนด่วน มาดูกัน! ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่เมื่อไหร่ดี? ยางรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่หลังยางรั่ว และปะยางรถ 10 สัญญาณชี้ที่คุณต้อง “เปลี่ยนยาง” ได้แล้ว! 5 สัญญาณเตือนถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์ 5 สัญญาณเตือน ว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์แล้วหรือยัง? รู้ได้อย่างไร เมื่อไรต้องเปลี่ยนยาง?

bottom of page