พบ 200 ผลลัพธ์เมื่อไม่ระบุค่าการค้นหา
- เด็กนั่งเบาะไหนดี ถึงจะปลอดภัยที่สุดในทุกการเดินทาง และทำไมถึงยังไม่เหมาะที่จะให้เด็กนั่งเบาะหน้า?
เวลาพาเด็กเล็กขึ้นรถ สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ความสะดวก แต่ต้องนั่ง ในตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งก็คือ เบาะหลังพร้อมคาร์ซีทที่เหมาะกับวัย ติดตั้งถูกต้องก็เหมือนมีเข็มขัดนิรภัยเฉพาะตัว เพราะร่างกายเด็กยังเล็กเกินกว่าจะใช้เข็มขัดแบบผู้ใหญ่ได้ตรงตำแหน่ง แถมเบาะหน้าก็มีถุงลมนิรภัยที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งอาจแรงเกินไปจนทำอันตรายกับเด็กได้ กฎหมายไทยเองก็เลยกำหนดไว้ชัดว่า เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือสูงไม่ถึง 135 ซม. จะต้องนั่งคาร์ซีทที่เบาะหลังเสมอ สำหรับเด็กที่เริ่มโตขึ้น บางคนอาจดูเหมือนนั่งเหมือนผู้ใหญ่ได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงยังต้องตรวจสอบให้ดีว่า เข็มขัดนิรภัยอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยจริงหรือไม่ ถ้าสายยังพาดที่ท้องหรือคออยู่ แปลว่ายังไม่เหมาะที่จะนั่งโดยตรง ควรใช้ Booster Seat ช่วยปรับระดับให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง จุดประสงค์ไม่ใช่การเคร่งกฎเกินไป แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเวลามีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น เด็กจะได้รับการปกป้องเต็มที่ พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่นี่!
- ระบบเบรก ABS คืออะไร? ทำไมกลายเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่รถยนต์ยุคใหม่ทุกระดับต้องมี
เดี๋ยวนี้รถรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต่างก็ติดตั้ง ระบบเบรก ABS มาให้แทบทั้งหมด เพราะมันช่วยให้เอาตัวรอดในสถานการณ์เบรกกะทันหันได้ดีมาก ระบบนี้ไม่ได้ทำให้รถเบรกสั้นขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกจนควบคุมรถไม่ได้ เวลาตกใจแล้วเหยียบเบรกเต็มแรง รถที่ไม่มี ABS มักจะไถลเป็นเส้นตรง หักพวงมาลัยก็ไม่ไป แต่ถ้ามี ABS รถจะยังเลี้ยวหลบสิ่งกีดขวางได้ เพราะล้อยังหมุนอยู่พอให้ควบคุมทิศทาง หลักการทำงานของ ABS คือระบบจะคอยจับว่าล้อกำลังจะหยุดหมุนสนิทหรือไม่ ถ้าเริ่มใกล้ล็อก ระบบจะสั่งให้ปั๊มเบรกจับ-ปล่อยผ้าเบรกถี่ ๆ หลายครั้งต่อวินาที ผู้ขับจะรู้สึกเหมือนเบรกต้านหรือสั่นนิดหน่อย ซึ่งไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นคือสัญญาณว่า ABS กำลังทำงาน ด้วยการทำงานแบบนี้ รถจึงไม่เกิดอาการหมุนหรือไถลง่าย ๆ บนถนนเปียก และยังช่วยถนอมยางให้สึกหรอน้อยลงอีกด้วย จะเรียกว่าเป็นผู้ช่วยที่ทำงานเงียบ ๆ แต่ช่วยชีวิตคนมาแล้วนับไม่ถ้วนก็คงไม่เกินจริง พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่
- ติดของตกแต่งบนตำแหน่งติดตั้งถุงลมนิรภัย อาจเปลี่ยนจากอุปกรณ์ช่วยชีวิตเป็นภัยอันตราย
อย่ามองข้ามจุดเล็กๆ อย่างการวางของตกแต่งในรถ เพราะมันอาจกลายเป็นอันตรายใหญ่หลวงได้ โดยเฉพาะบริเวณที่ติดตั้งถุงลมนิรภัย เช่น พวงมาลัยและแผงคอนโซลหน้า หากมีการวางเหรียญ พระ หรือของแข็งไว้ตรงนั้น เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน มันจะพองตัวด้วยแรงกดมหาศาลและผลักของเหล่านั้นให้ปลิวมากระแทกผู้ขับหรือผู้โดยสารแทนที่จะช่วยปกป้อง กลายเป็นเพิ่มความรุนแรงให้การบาดเจ็บ และที่แย่กว่านั้นคือสิ่งของเหล่านี้อาจขัดขวางไม่ให้ถุงลมทำงานเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ระบบความปลอดภัยลดลงอย่างมากโดยไม่รู้ตัว หากอยากตกแต่งรถหรือมีความเชื่อส่วนตัวอย่างการตั้งพระ ควรเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น จุดที่ไม่มีถุงลมนิรภัย หรือบริเวณที่ไม่บดบังทัศนวิสัย เลือกของที่มีน้ำหนักเบา ไม่มีมุมแหลม และยึดให้แน่นเพื่อไม่ให้หล่นหรือปลิวขณะรถวิ่ง เช่น การใช้กาวสองหน้า แผ่นยางกันลื่น หรือสายแขวนเล็กๆ ที่พอดี ไม่ยาวจนแกว่งไปมา วิธีนี้จะช่วยให้รถยังคงความสวยงามตามที่เจ้าของต้องการ แต่ไม่กระทบการทำงานของถุงลมนิรภัย และยังรักษาความปลอดภัยของทุกคนในรถได้เต็มที่ พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่
- รถยนต์จมน้ำ ทำไมถึงไม่ควรสตาร์ทรถทันทีหลังน้ำท่วม ถ้าไม่อยากไม่อยากจ่ายค่าซ่อมหลักแสน?
เวลาเกิดเหตุรถจมน้ำ สิ่งที่หลายคนอาจรีบทำโดยไม่รู้ คือการพยายามสตาร์ทรถ แต่ความจริงนี่คือสิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด! เพราะถ้าน้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้แล้ว เร่งสตาร์ทเมื่อไร น้ำจะถูกดูดเข้ากระบอกสูบ ทำให้เครื่องยนต์น็อก ก้านสูบคด หรือถึงขั้นเครื่องพังจนต้องซ่อมใหญ่เลยทีเดียว แถมระบบไฟฟ้าและกล่อง ECU ก็อาจโดนน้ำจนลัดวงจร กลายเป็นความเสียหายหนักที่ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเดิมหลายเท่า ทางที่ถูกต้องหลังรถจมน้ำคืออย่าเพิ่งแตะกุญแจสตาร์ท แต่ให้เปิดฝากระโปรงแล้วถอดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน โดยเริ่มจากขั้วลบ (สีดำ) เพื่อความปลอดภัย จากนั้นค่อยปลดขั้วบวก (สีแดง) แล้วนำแบตเตอรี่ออกมาตรวจสอบ แต่หลังจากขั้นตอนเบื้องต้นเสร็จแล้ว แนะนำว่าควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า ECU และจุดที่น้ำอาจแทรกซึม เพื่อให้มั่นใจว่ารถพร้อมใช้งานจริงและไม่ทิ้งปัญหาซ่อนเร้นในอนาคต พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่
- แจ้งปิดทำการในวันที่ 23 ตุลาคม 2568
แจ้งปิดทำการ ในวันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม 2568เนื่องในวันปิยมหาราชจะเปิดทำการปกติใน วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม 2568 ท่านใดที่ต้องการจองรถหรือนำรถเข้าศูนย์บริการ สามารถนัดหมายเข้ามาก่อนวันหยุดได้เลยนะคะ ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ Isuzu Hat Group เราให้คุณมากกว่าคำว่าบริการ พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่นี่!
- โปรโมชั่นพิเศษ! ล้างท่อไอดีเครื่องยนต์ 1.9/3.0 กำเงินมา 2 ใบเทา มีทอนกลับบ้าน!
โปรโมชั่นพิเศษ! ล้างท่อไอดีเครื่องยนต์ 1.9/3.0 กำเงินมา 2 ใบเทา มีทอนกลับบ้าน! ให้รถของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ขับสนุกขึ้น เกียร์เปลี่ยนลื่นไหล รีบมาใช้บริการ ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2567 โปรจัดไปยาว ๆ ที่ศูนย์บริการอีซูซุฮกอันตึ๊งทั้ง 7 สาขา ติดต่อนัดหมายได้ที่ 081-2806664 สาขาบ้านคลอง พิษณุโลก 088-2820908 สาขาอินโดจีน พิษณุโลก 081-9538080 สาขาตาก 086-4400932 สาขาแม่สอด 089-9616688 สาขาอุตรดิตถ์ 083-1617779 สาขาสุโขทัย 099-3833366 สาขาสวรรคโลก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ไลน์ไอดี: @isuzuhat พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่นี่!
- แจ้งปิดทำการในวันที่ 13 ตุลาคม 2568
แจ้งปิดทำการในวันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม 2568 เนื่องในวันวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จะเปิดทำการปกติใน วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม 2568 ท่านใดที่ต้องการจองรถหรือนำรถเข้าศูนย์บริการ สามารถนัดหมายเข้ามาก่อนวันหยุดได้เลยนะคะ ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ Isuzu Hat Group เราให้คุณมากกว่าคำว่าบริการ พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่นี่!
- ความชื้นตัวร้ายที่มากับหน้าฝน กำลังลุกลามเป็นเชื้อรากวนใจ ดูแลรถแบบไหนให้ปลอดเชื้อราในหน้าฝน?
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ความชื้นในรถเป็นปัญหาที่เจอบ่อยมาก ไม่ว่าจะมาจากฝนสาดเข้ารถ พรมเปียก หรือแค่จอดรถในอากาศอับ ๆ ก็พาเอากลิ่นไม่พึงประสงค์และเชื้อราตามมาได้ง่าย ๆ วิธีป้องกันก็ไม่ยาก ก่อนดับเครื่องควรปิดแอร์แล้วเร่งพัดลมพร้อมเปิดกระจกสักครู่เพื่อไล่ความชื้น หรือถ้ามีแดดออก ลองเปิดประตู ลดกระจกทิ้งไว้ให้ลมผ่านบ้าง ก็ช่วยระบายอากาศได้ดีขึ้นเยอะ ถ้าเผลอจนมีเชื้อราเกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องตกใจ ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำฉีดทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยเช็ดออกก็ช่วยได้เยอะ ที่สำคัญอย่าลืมดูแลเบาะหนังเป็นประจำด้วยน้ำยาเช็ดเบาะรถยนต์ทุก 2 สัปดาห์ และเสริมด้วยการวางซองซิลิกาเจลหรือถ่านไม้ไว้ใต้เบาะช่วยดูดความชื้นอีกแรง แค่นี้ก็ช่วยให้รถไม่มีกลิ่นอับ ห่างไกลเชื้อรา และยังทำให้เบาะกับห้องโดยสารดูน่าใช้อยู่เสมอ แม้ในวันที่ฝนตกบ่อย ๆ ก็ตาม พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่
- นั่งท้ายกระบะให้ถูกกฎหมายและปลอดภัย ผู้โดยสารและคนขับต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง?
หลายคนอาจเคยขึ้นท้ายกระบะเวลาเดินทางกับเพื่อนหรือครอบครัว แต่สิ่งที่หลายคนมักไม่รู้คือ มีกฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนเพื่อความปลอดภัยและเลี่ยงการโดนปรับ ข้อแรกที่ต้องจำไว้คือ ห้ามใช้รถกระบะที่จดทะเบียนเป็น “รถบรรทุกป้ายเขียว” มาบรรทุกผู้โดยสาร เพราะถือว่าใช้ผิดประเภท ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนรถกระบะทั่วไป กฎหมายอนุโลมให้นั่งในแค็บได้ไม่เกิน 3 คน และนั่งหลังกระบะได้ไม่เกิน 6 คน การนั่งหลังกระบะเองก็มีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติ เช่น ต้องปิดฝากระบะท้ายตลอดเวลาเพื่อกันการตกรถ ห้ามนั่งริมขอบกระบะ ห้ามซ้อนกันหรือขึ้นไปนั่งบนสิ่งของที่บรรทุกอยู่ และห้ามยืนโดยสารเด็ดขาด ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน นอกจากนี้ยังห้ามยื่นแขน ขา หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายออกนอกตัวรถ และต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. กติกาเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่ป้องกันการโดนปรับเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การเดินทางด้วยกระบะเป็นไปอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุได้จริง พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่
- ฤกษ์ออกรถยนต์ เดือนตุลาคม 2568
👻 เดือนตุลาคมนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะผีน้อยจะพาโชคมาให้คนอยากออกรถใหม่ 🚗✨ วันดี ๆ มีเพียบในปฏิทิน เตรียมตัวรับความเฮงได้เลย! 🎃 ไม่ว่าจะเป็นวันศุกร์ เสาร์ หรือวันกลางสัปดาห์ ก็มีฤกษ์ปัง ๆ รออยู่เพียบ ออกรถเดือนนี้ บอกเลยว่าทั้งหล่อ เท่ และเฮงตลอดเส้นทางแน่นอน 💜 พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่
- รู้จักประเภทยาง เลือกแบบไหนถึงจะตอบโจทย์กับสภาพถนนและการใช้งานของคุณมากที่สุด
เวลาเลือกยางรถยนต์ หลายคนอาจคิดว่าเลือกยี่ห้อหรือราคาเป็นหลักก็พอ แต่จริง ๆ แล้ว “ประเภทของยาง” สำคัญไม่แพ้กัน เพราะแต่ละแบบถูกออกแบบมาเพื่อสภาพถนนและการใช้งานที่ต่างกัน เลือกถูกก็ขับสบาย ปลอดภัย และคุ้มค่า เลือกผิดอาจได้ยางไม่ตรงกับการใช้งาน มาดูกันว่ายางแต่ละประเภทมีจุดเด่น–จุดด้อยอะไรบ้าง ยาง H/T (Highway Terrain) ใครที่ขับถนนเรียบเป็นหลัก ไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมือง H/T คือคำตอบที่ใช่ จุดเด่นคือขับแล้วนุ่ม เงียบ ประหยัดน้ำมัน และใช้งานได้นาน แต่ข้อเสียคือไม่เหมาะกับเส้นทางลูกรังหรือโคลนลึก เพราะการเกาะถนนจะลดลงทันที เรียกง่าย ๆ ว่า H/T เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ไม่ใช่สายลุย ยาง A/T (All Terrain) ถ้าคุณใช้รถทั้งขับในเมืองและมีออกทริปบ้าง ยาง A/T น่าจะตอบโจทย์ที่สุด เพราะออกแบบมาให้ใช้ได้ทั้งถนนเรียบและเส้นทางขรุขระปานกลาง ดอกยางใหญ่ แข็งแรง และเกาะถนนได้ดี จุดด้อยคือเสียงดังและสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า H/T แต่ถ้ามองหาความอเนกประสงค์ A/T คือทางเลือกที่คุ้มค่า ยาง M/T (Mud Terrain) สำหรับสายออฟโรดตัวจริง M/T คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะดอกยางใหญ่และลึก ทำให้ตะกุยโคลนและหินได้ดีเยี่ยม ใช้งานหนักแค่ไหนก็เอาอยู่ ข้อเสียคือเมื่อวิ่งบนถนนเรียบจะเสียงดังและกินน้ำมันมาก ไม่เหมาะกับคนที่ขับถนนปกติทุกวัน แต่ถ้าเจอโคลนลึกหรือเส้นทางวิบาก MT คือที่สุดของความมั่นใจ ยาง R/T (Rugged Terrain) ถ้าอยากได้ความสมดุลระหว่าง A/T และ M/T ยาง R/T คือคำตอบ ดอกยางออกแบบมาให้ลุยได้มากกว่า A/T แต่ยังขับบนถนนเรียบได้ดีกว่า M/T เงียบกว่า และนุ่มกว่าด้วย เหมาะกับคนที่ใช้รถในชีวิตประจำวัน แต่ก็มีทริปผจญภัยบ่อย ๆ ข้อเสียคือกินน้ำมันมากกว่า H/T และ A/T และยังไม่สุดในโคลนลึกเหมือน M/T ไม่ว่าคุณจะเป็นสายขับถนนเรียบทุกวัน หรือคนที่ชอบออกทริปผจญภัยบ่อย ๆ การเลือกยางที่ตรงกับการใช้งานคือสิ่งที่จะทำให้ทุกการเดินทางมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น มองหายางที่ใช่ตามสไตล์การขับของคุณ แล้วทุกเส้นทางจะกลายเป็นทริปที่เต็มไปด้วยความสบายใจและสนุกกว่าที่เคย พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่
- รถกระบะบรรทุกทำไมส่วนใหญ่ยังคงใช้ดรัมเบรกที่ล้อหลัง ทั้งที่ดิสเบรกตอบสนองได้เร็วกว่า?
ระบบเบรกถือเป็นหัวใจสำคัญของรถทุกคัน โดยเฉพาะรถบรรทุกหนักที่ต้องการความมั่นใจในการหยุดรถ สาเหตุหลักที่รถกระบะยังเลือกใช้ ดรัมเบรกที่ล้อหลัง มาจาก “การใช้งานจริง” ของรถประเภทนี้นั่นเอง รถกระบะถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกของหนัก ดรัมเบรกจึงเหมาะสมเพราะมีความทนทานสูงและสามารถรองรับแรงกดจากน้ำหนักบรรทุกได้ดีกว่าดิสเบรก อีกทั้งยังเป็นระบบปิด ทำให้ทนทานต่อฝุ่น ดิน และโคลน เวลาขับบนถนนที่สมบุกสมบันหรือวิ่งบรรทุกของในพื้นที่ก่อสร้าง ดรัมเบรกก็ยังคงทำงานได้ดีโดยไม่เสื่อมประสิทธิภาพง่าย อีกเหตุผลสำคัญคือเรื่อง ความสมดุลของแรงเบรก เนื่องจากเวลารถกระบะบรรทุกของหนัก น้ำหนักจะกดไปที่ล้อหลังมากขึ้น หากใช้ดิสเบรกที่มีแรงเบรกไวเกินไป อาจทำให้ล้อหลังล็อกหรือท้ายปัดจนเสียการควบคุมได้ ดรัมเบรกจึงช่วยควบคุมแรงเบรกด้านหลังให้เหมาะสม ไม่แรงเกินไปจนรถเสียสมดุล เมื่อนำมาผสมกับดิสเบรกที่ล้อหน้า ซึ่งตอบสนองไวและระบายความร้อนได้ดี ก็ทำให้รถกระบะได้ทั้งความทนทานและความปลอดภัยในเวลาเดียวกัน พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่












